เวลา&ความสุข

วันพฤหัสบดีที่ 8 กันยายน พ.ศ. 2554

10 ประเทศที่ประชากรสุขภาพดีที่สุดในโลก !


ประชากรใน 10 ประเทศต่อไปนี้ขึ้นชื่อว่ามีสุขภาพดีที่สุดในโลก ทั้งที่ในบางประเทศมีอาหารอันขึ้นชื่อ เช่น พิซซ่า หรือพาสต้าชีส ซึ่งเมนูเหล่านี้น่าแปลกใจทีเดียวว่ามีประโยชน์ต่อสุขภาพของพวกเขาได้อย่างไร ไปดูกันว่าพวกเขากินอะไร และกินอย่างไร จึงได้ชื่อว่าสุขภาพดีที่สุดในโลก
 อันดับ 1 ญี่ปุ่น
          ชาวญี่ปุ่นมีหลักการบริโภคคือ เมนูในหนึ่งวันจะต้องหลากหลายและมีคุณค่า ดังนั้นในหนึ่งมื้อของชาวญี่ปุ่นจะต้องมีข้าวเปล่าไว้ทานกับเนื้อปลา เนื้อหมู ผักใบเขียวต่าง ๆ และนัตโตะ (ถั่วหมัก) อีกทั้งยังต้องมีซุปมิโซะ ใส่สาหร่าย เต้าหู้ และเห็ดเข็มทอง ทั้งนี้เพื่อคุณค่าทางโภชนาการครบถ้วน

 อันดับ 2 สิงคโปร์

          ด้วยอิทธิพลวัฒนธรรมผสมระหว่างตะวันออกกับตะวันตก ทำให้ชาวสิงคโปร์ชื่นชอบอาหารประเภทข้าวและเส้น นิยมทานคู่กับเนื้อ หมู ปลา และไก่ ที่นำมาทำเมนูย่าง ผัด หรือแกง และในมื้อเช้าก็ยืนพื้นเป็นโจ๊ก หรือข้าวต้มเหมือนบ้านเรา แต่สิ่งหนึ่งที่พวกเขาจะไม่บริโภคเลยคือ อาหารทอดที่มีน้ำมันมาก

 อันดับ 3 จีน

          แต่เดิมแล้วชาวจีนให้ความสำคัญกับความปราณีตของอาหาร แต่เนื่องจากมีประชากรมากที่สุดในโลก ต่อมาจึงจำเป็นต้องต่อสู้ดิ้นรนเพื่อความอยู่รอด ดังนั้นอาหารที่หาง่ายและทำได้ง่ายสุดคือ เมนูผักนั่นเอง ทำให้ถูกยึดเป็นอาหารพื้นฐานในยุคปัจจุบัน ถ้าหากนึกภาพอาหารจีนสักจาน คงต้องนึกไปถึงข้าวสวยร้อน ๆ ทานกับผัดผัก ผัดถั่ว ที่อาจมีเนื้อสัตว์ประกอบอยู่เพียง 1 หรือ 2 ส่วนเท่านั้น

 อันดับ 4 สวีเดน

          เป็นประเทศต้นกำเนิดบุฟเฟ่ต์ (smorgasbord) มีแนวคิดมาจากภาษาสวีดีชคำว่า "Lagom" ที่แปลว่าเพียงพอ โดยลักษณะการจัดเรียงคือ อาหารแต่ละอย่างจะถูกจัดวางในจานใบเดียวกันในปริมาณที่พออิ่ม ซึ่งเป็นข้อดีคือ พวกเขาสามารถกำหนดปริมาณการบริโภคในแต่ละมื้อได้ โดยตามธรรมเนียมดั้งเดิมแล้ว อาหารสวีเดนจะเน้นที่ทานง่ายและให้ประโยชน์มาก เช่น โยเกิร์ต นม ขนมปังธัญพืชไม่ขัดสี และเมนูปลา

 อันดับ 5 ฝรั่งเศส 

          ชาวฝรั่งเศสเน้นวัฒนธรรมการกินที่ต้องดูดีร่วมสมัย ชาวฝรั่งเศสชอบใช้เวลากับมื้ออาหารเพื่อดื่มด่ำอยู่กับรสชาติอาหาร ทำให้พวกเขาใช้เวลากับมื้อค่ำค่อนข้างนานกว่ามื้ออื่น ๆ ผิดกับมื้อเช้าที่จะดื่มกาแฟเพียงแก้วเดียว หรือกินแค่บาเกตทาเนยเพียงชิ้นเดียว แล้วมื้อกลางวันกินพาสต้าชีสชามโต ไม่ว่าอย่างไรอาหารก็ไม่เป็นปัญหากับรูปร่างของพวกเขา เพราะพวกเขารักการเดิน หรือไม่ก็ปั่นจักรยาน ซึ่งนี่เป็นวิธีการเผาผลาญไขมันจากการอาหารที่บริโภคอย่างหนักมาทั้งวันได้ดี

 อันดับ 6 อิตาลี

          ชาวอิตาเลียนเน้นทานอาหารสไตล์เมดิเตอร์เรเนียน พวกเขาจะปรุงสดและบริโภคในทันที อาหารสไตล์นี้ใช้น้ำมันมะกอกในการปรุง และเน้นหนักไปทางผลไม้สด ผักสด ธัญพืช เมล็ดถั่ว เนื้อปลา และอาจจิบไวน์ควบคู่กับอาหารไปด้วย อันที่จริงมีชาวอิตาเลียนจำนวนน้อยมากที่ทานพาสต้าเป็นอาหารจานหลัก เพราะตามหลักแล้วเมนูพาสต้าจะถูกเสิร์ฟในปริมาณพออิ่มถัดจากอาหารจานสลัด

 อันดับ 7 สเปน 

          "แมนเชโก้" (Manchego) ถือเป็นชีสที่ดีที่สุดของสเปน รวมถึงเนื้อเบคอนด้วย แต่ทั้งนี้พวกเขาจะนำมาดัดแปลงในเมนูซุป หรือสตูว์ เพิ่มเมล็ดอัลมอนด์ กระเทียม ถั่วชิคพี (chickpea) ถั่วปากอ้า ถั่วฝัก และผักสดตามฤดูกาล อาจมีตบท้ายด้วยผลไม้ตระกูลส้ม นับว่าเมนูของชาวสเปนขึ้นชื่อเรื่องอาหารชะลอวัย ช่วยลดคอเลสเตอรอล เพราะอุดมไปด้วยสารแอนตี้ออกซิแดนท์


 อันดับ 8 เกาหลีใต้ 

          ชาวเกาหลีมีผิวขาวสวยเพราะ "กิมจิ" หรือผักดองปรุงรสที่มีกลิ่นฉุน รสเปรี้ยวและเผ็ดเล็กน้อย ซึ่งนับแต่โบราณกาล แม่บ้านเกาหลีจะดองกิมจิเอาไว้ตั้งแต่ต้นปีในช่วงฤดูใบไม้ผลิ เพื่อนำมาเป็นอาหารในช่วงฤดูหนาวที่แห้งแล้ง แทนผักผลไม้ที่เก็บเกี่ยวไม่ได้ แต่ในปัจจุบันชาวเกาหลีนิยมทานกิมจิเป็นเครื่องเคียงร่วมกับเมนูเนื้อสัตว์อื่น ๆ ด้วย เช่น พุลโกกิ (เนื้อย่าง) คิมบับ (ข้าวห่อสาหร่าย) พีบิมบับ (ข้าวยำ) เป็นต้น
 อันดับ 9 อิสราเอล

          ชาวอิสราเอลนิยมทานเนื้อแกะ สตูว์มะเขือม่วง และพิต้ายัดไส้ โดยจะเน้นหนักไปที่มื้อกลางวัน ซึ่งขั้นตอนการเตรียมทุกอย่างจะนำไปย่างก่อน ตามมาด้วยผสมขมิ้นในเครื่องเทศให้ยิ่งเผ็ดร้อน โรยหน้าด้วยใบมิ้นท์และงา หรืออาจนำผักสดและเครื่องเทศ มาคลุกเคล้าน้ำมันมะกอกทำเป็นสลัด เช่น มะเขือเทศ พริกไทย หัวหอม กระเทียม โรยหน้าผักชีฝรั่ง (parsley) และผักชีลาว (dill)

 อันดับ 10 กรีซ

          ชาวกรีกนิยมปรุงอาหารทานเองที่บ้าน น้อยครั้งมากที่จะออกไปรับประทานนอกบ้าน พวกเขานิยมทานอาหารสไตล์เมดิเตอร์เรเนียน ซึ่งมีหัวใจหลักอยู่ที่ปรุงด้วยน้ำมันมะกอกทุกขั้นตอน เน้นสีสันสดใสโดยการใส่ผักสด โรยธัญพืช ถั่วฝัก มะเขือเทศ พริกไทย และอาหารทะเลสด

          สำหรับคนที่อยากลดน้ำหนักให้ได้ผลและมีสุขภาพดีไปพร้อมกันด้วย คุณอาจต้องเปลี่ยนวิธีกินโดยการแบ่งกินเป็นมื้อย่อย 5 มื้อ อาจกินมื้อเช้าแบบชาวเกาหลี และมื้อค่ำเน้นผักสดแบบชาวอิตาลี ปรับวิธีปรุงอาหารมาเป็นอบ กริลล์ (ย่างพอสุก) แทนการทอด หรือเลือกบริโภคเนื้อสัตว์เพียง 1 มื้อต่อวัน และออกกำลังกายอย่างน้อยวันละ 25 นาที เพียงแค่นี้ก็สามารถมีสุขภาพดีแบบนานาชาติได้แล้วค่ะ


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น